วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีการเพิ่มบทความให้บล็อก

1. คลิกบทความใหม่ในบล็อกด้านขวามือบนของหน้าจอ





2. เพิ่มข้อความตามต้องการโดยเลือกเป็นภาษา html หรือ เขียนธรรมดา



3. สามารถเปลี่ยนสี ขนาด รูปแบบข้อความได้ตามใจชอบ




4. แสดงตัวอย่างก่อนเผยแพร่ข้อความได้





5. คลิกเผยแพร่ข้อความ บทความก็จะแสดงบนหน้าบล็อกของคุณ


..........................................................................................

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

หลวงพระบางเมืองหลวงของลาว



• ลาว...ประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณห้าล้านคน แม้จะน้อยนักแต่หากว่าลาวมีแผ่นดินที่กว้างใหญ่กว่า 236,800 ตารางกิโลเมตร เป็นอาณาจักรแห่งขุนเขาและสายน้ำที่ยังสมบูรณ์ดังเช่นครั้งหนึ่งไทยเราเคยมี• นานมาแล้วที่นักเดินทาง นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันถึงหลวงพระบางหรืออาณาจักรล้านช้าง ในอดีตเดิมทีหลวงพระบางเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลาวมาก่อน เมื่อองค์การยูเนสโก้ยกให้หลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก ชื่อของหลวงพระบางจึงขจรขจายไปไกล การท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบางจึงมีชื่อเสียงมากที่สุดของลาวก็ว่าได้• "ตัวเมืองอันสงบ อบอุ่นด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรี" ตัวเมืองหลวงพระบางนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงช่วงที่คดโค้งสวยงาม หันไปทางไหนแลเห็นแต่สีเขียวจากป่าดงพงไพร• นานมาแล้วที่เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองหลวง พระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆของชนเผ่าไท-ลาวในเขตลุ่มน้ำโขง แม่น้ำคาน แม่น้ำอู ก่อตั้งอาณาจักรล้านช้าง ณ ดินแดนริมน้ำโขงซึ่งคือหลวงพระบาง เมื่อปี พ.ศ. 1896 – 1916 โดยการช่วยเหลือของกษัตริย์ขอม (เพราะมเหสีของเจ้าฟ้างุ้มคือพระราชธิดาของกษัตริย์ขอมในขณะนั้น) พร้อมๆกับการรับเอาพุทธศาสนาเข้ามาแทนการนับถือผี

สนใจอ่านเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดได้ที่นี่>>>http://th.upload.sanook.com/A0/9c18942c3d47e00d36e79ed7585ee398

แหล่งอ้างอิง>>> http://www.oceansmile.com/Lao/lao2.htm



เกาะช้าง




เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต ที่เกาะช้าง นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งน้ำตก และหาดทรายขาวแล้ว ยังมีวิถีชิวิต ชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าท่องเที่ยว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพจนเกินไป และที่เกาะช้าง สภาพอากาศที่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกือบตลอดทั้งปี หมู่เกาะช้าง จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศนิยมมาอย่างไม่ขาดสาย หาดที่ได้รับความนิยมของเกาะคือ หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว, หาดไก่แบ้, หาดบางเบ้า, โลนลี่ บีช, อ่าวใบลาน, อ่าวคลองสน, หาดไข่มุก, สลักเพชร, บ้านเจ๊กแบ้ และ ด่านเก่า เป็นต้น

สนใจอ่านเพิ่มเติมหรือดาวโหลดได้ที่นี่>>>http://th.upload.sanook.com/A0/9c18942c3d47e00d36e79ed7585ee398

แหล่งอ้างอิง http://hilight.kapook.com/view/19051

ปาย...อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

ปาย เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ ปายได้ดึงดูดนักเดินทางรวมให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและดาวโหลดได้ที่นี่>>> http://th.upload.sanook.com/A0/80a9b7d693f11b00fd7f57e495b09526

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ชาร์จแบตมือถือ




ชาร์จบ่อย ชาร์จถี่ ...แบตฯหมดอายุใช้งานเร็ว โรงงานส่วนใหญ่ ออกแบบชาร์จได้ประมาณ 300-400 ครั้ง ชาร์จมากเกินกว่านั้น แบตฯจะเสื่อม...หมดอายุใช้งาน คนละอย่างกับแบตเตอรี่รุ่นเก่า นิกเกิล-แคดเมียม ที่แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม ใช้ไม่หมด เอาไปชาร์จจะทำให้แบตฯเสื่อมเร็ว เสื่อมเร็วเพราะแบตฯรุ่นเก่ามีวงจรที่เรียกว่า memory effect ถ่านเต็มก้อนใช้ไม่หมด ใช้ไปแค่ครึ่งเดียว พอนำไปชาร์จใหม่เติมให้เต็ม...ไฟที่ถูกเอามาใช้เลี้ยงโทรศัพท์...จะเป็นไฟส่วนที่ชาร์จ เข้าไปใหม่ ไฟเก่าที่เหลือค้างอยู่ในแบตฯ ไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน...ใช้ไปแป๊บเดียวแบตฯหมด แบตฯหมดเร็วต้องชาร์จบ่อย...เราก็คิดว่าถ่านเสื่อม ซื้อใหม่เปลืองเงิน ใช้ถ่านรุ่นเก่า อยากจะถนอมแบตฯ ผู้รู้บอก ให้ชาร์จกับแท่นชาร์จรุ่นที่มีระบบ recondition หรือระบบล้างไฟให้หมดก้อน...ล้างหมดแล้วชาร์จให้ใหม่ทันที ส่วนผู้ใช้แบตฯรุ่นใหม่ ลิเทียม-ไอออน อยากจะถนอมแบตฯไม่ให้เสื่อมเร็ว รู้กันไปแล้ว ชาร์จครบ 300-400 ครั้ง ถ่านหมดอายุ ฉะนั้นวิธีถนอมแบตฯง่ายๆ... อย่าชาร์จบ่อย โดยไม่จำเป็น ใช้จนหมดแล้วค่อยชาร์จ แต่ที่สำคัญ...เวลาชาร์จ ต้องระวังให้ดี ประเภทปลั๊กไฟที่บ้านไม่ค่อยดี ปลั๊กหลวม...ขยับนิดขยับหน่อย เดี๋ยวติด เดี๋ยวดับ ปลั๊กไฟหลวมแบบนี้...อย่าเอามาใช้ ชาร์จแบตฯโทรศัพท์ มือถือ! เพราะอะไรนั่นหรือคะ ปลั๊กหลวมเดี๋ยวติด โดนนิดโดนหน่อยเดี๋ยวดับ...ไฟติดๆ ดับๆ เสียบชาร์จไฟเข้า ...นับเป็นชาร์จ 1 ครั้ง ปลั๊กหลวม ไฟดับ ขยับแล้วติด...นับเป็นชาร์จครั้งที่ 2...ติดๆ ดับๆ 10 ครั้ง... นับเป็นชาร์จ 10 ครั้งค่ะ ชาร์จทำให้แบตฯหมดอายุเร็ว อีกอย่าง... ชอบชาร์จแบตฯในรถ ขับรถ เสียบชาร์จแบตฯในรถ ขับมาได้สักพักจอดรถดับเครื่อง นับเป็นชาร์จครั้งแรก...ทำธุระเสร็จ แบตฯยังเสียบคาอยู่ในรถ สตาร์ตเครื่องออกรถ นับเป็นชาร์จครั้งที่ 2 และที่เป็นปัญหาทำให้แบตฯเสื่อมเร็วที่สุด คือ ชาร์จแบตฯในช่วงสตาร์ตเครื่องรถ.... ปัญหาก็คล้ายๆกับปลั๊กหลวมนั่นแหละค่ะ รถยังไม่ได้สตาร์ตเครื่อง แต่เสียบชาร์จแบตฯไว้ก่อน...เปิดไฟเสียบชาร์จ ถ่านนับไปเป็นชาร์จครั้งแรก...บิดกุญแจสตาร์ตเครื่อง ถ่านจะนับเป็นครั้งที่ 2 และถ้ากว่าเครื่องจะติด ต้องบิดกุญแจสตาร์ตหลายหน...ก็นับเป็นชาร์จหลายครั้งค่ะ
แบตฯเลยอายุสั้นเสื่อมเร็วกว่าปกติค่ะ.




แหล่งที่มา>>> http://school.obec.go.th/watsaohin_pl/page/t10.html




ทำไงดีเมื่อลืมกินยาตามเวลา


ทำไงดีเมื่อลืมกินยาตามเวลา

ถ้าลืมกิน...ยาก่อนอาหาร

ทางแก้ : ยาจำพวกนี้จะดูดซึมได้ดีขณะที่ห้องว่าง ดังนั้นหากลืมกินก่อนอาหารให้กินหลังอาหารอีกทีเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง หลักการ กระเพาะจะใช้เวลาในการย่อยอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง
หลักการที่ถูก : ควรกินก่อนอาหาร ประมาณ 30-60 นาที



ถ้าลืมกิน...ยาหลังอาหาร

ทางแก้ : รีบกินทันทีที่นึกได้ แต่หากเลยหลังอาหารไปแล้ว 2 ชั่วโมง ให้หาของว่างรองท้องสักหน่อย แล้วตบท้ายด้วยยามื้ที่ลืม หมายเหตุ ถ้าใกล้เวลากินมื้อต่อไปแล้ว ให้ข้ามมื้อที่ลืมไปเสีย ไม่ควรเบิ้ลยาเป็น 2 เท่า เด็ดขาด!
หลักการที่ถูก : ควรรับประทานหลังอาหาร ประมาณ 15-20 นาที


ถ้าลืมกิน...ยาหลังอาหารทันที/ยากินพร้อมอาหาร

ทางแก้ : ยาประเภทนี้มีฤทธิ์กัดกระเพาะ อาจทำให้ท้องอืดแน่นหรือคลื่นไส้อาเจียน ถ้ากินตอนท้องว่าง ดังนั้นควรทำเหมือนกรณีลืมกินยาหลังอาหารทุกประการ
หลักการที่ถูก : ควรกินทันทีหลังอาหารคำสุดท้าย


ถ้าลืมกิน...ยาก่อนนอน

ทางแก้ : ลืมแล้วก็ปล่อยให้ลืมไป ไม่ต้องกินซ้ำอีกครั้งในตอนเช้า หรือตามไปเบิ้ลซ้ำ 2 เท่า ในช่วงก่อนเข้านอนของอีกวัน
หลักการที่ถูก : กินแล้วควรเข้านอนทันที (ยาประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นยาคลายประสาท ทำให้ง่วงนอน จึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าไม่อยู่เป็นที่เป็นทาง)



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


แหล่งที่มา >>> http://school.obec.go.th/watsaohin_pl/page/home0.html

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีแต่งหน้าและปาก ให้เข้ากัน


1. ลงคอนซีลเลอร์ลบรอยคล้ำใต้ตาตามด้วยรองพื้นและแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า จากนั้นลงครีมบลัชเฉดสีพีชบริเวณข้างแก้ม แล้วใช้นิ้วมือไล้ให้จางเข้ามาด้านหน้าแก้ม หลังจากนั้นจึงลงครีมบลัชเฉดสีชมพูบริเวณด้านหน้าแก้มแล้วเกลี่ยออกด้านข้างให้กลมกลืน

2. ลงอายแชโดว์สีชมพูอ่อนบริเวณหางตา แล้วเกลี่ยขึ้นไปให้ทั่วเปลือกตาบน

3. ลงอายแชโดว์เฉดสีน้ำเงินอมม่วงให้ทั่วเปลือกตาล่าง แล้วไล้ขึ้นไปให้เหลื่อมกับอายแชโดว์สีชมพูเล็กน้อย

4. วาดขอบตาบนและล่าง ด้วยฟลูอิดไลเนอร์สีดำเทา โดยวาดขอบตาบน ตั้งแต่หัวตาจรดหางตา ขอบตาล่างตั้งแต่หางตาถึงกึ่งกลางตา แล้วทาทับด้วยอายแชโดว์เฉดสีเขียวเข้ม จากนั้นลงอายแชโดว์สีทองประกายมุกบริเวณหัวตาเพื่อเพิ่มความสดใส หลังจากนั้นจึงดัดขนตาให้งอนงามแล้วปัดทับด้วยมาสคาร่าสีน้ำทะเล

5. ริมฝีปากอิ่มสวยด้วยลิปสติก และลิปกลอสโทนสีส้มธรรมชาติ

รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองนำเทคนิคนี้ไปแต่งหน้ากับปากให้เข้ากันดูได้


แหล่งที่มา>>> http://hilight.kapook.com/view/29882